ผงใบมะรุมเป็นแหล่งสารอาหารที่ดีเยี่ยมและสามารถเป็นอาหารเสริมอย่างง่ายสำหรับคนแอฟริกา มะรุมอุดมไปด้วยวิตามินเอ เบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอีและ ธาตุอาหารสำคัญรวมทั้งซีลีเนียม และยังมีค่า RDA ของสารอาหารที่เกือบจะครบถ้วน (RDA ก็คือ ปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับประจำวัน. ย่อมาจาก Recommended Dietary Allowance)
Share
ชื่อสามัญ horseradish tree, drumstick tree, "mother's best friend"
ชื่อพื้นเมือง ผักอีฮึม ผักอีฮุม มะค้อนก้อม
ชื่อวิทยาศาตร์ Moringa olifera Lamk.
วงศ์ MORINGACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ มะรุมเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางเรือนยอดกลมและโปร่ง เจริญเติบโตเร็ว อาจจะเติบโตมีความสูงถึง 4 เมตรและออกดอกภายในปีแรกที่ปลูก ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ชนิดที่แตกใบย่อย 3 ชั้น ยาว 20 - 40 ซม. ออกเรียงแบบสลับ ใบย่อยยาว 1 - 3 ซม. รูปไข่ ปลายใบและฐานใบมน ผิวใบด้านล่างสีอ่อนกว่าและมีขนเล็กน้อยขณะที่ใบยังอ่อน ใบมีรสหวานมัน ออกดอกในฤดูหนาว บางพันธุ์ออกดอกหลายครั้งในรอบปี ดอกเป็นดอกช่อ สีขาว กลีบเรียง มี 5 กลีบ กลีบดอกมี 5 กลีบแยกกัน ดอกมีรสขม หวาน มันเล็กน้อย ผลเป็นฝักยาว เปลือกสีเขียวมีส่วนคอดและส่วนมน เป็นระยะ ๆ ตามยาวของฝัก ฝักยาว 20 - 50 ซม. ฝักมีรสหวาน เมล็ดเป็นรูปสามเหลี่ยม มีปีกบางหุ้ม 3 ปีก เส้นผ่าศูนย์กลางของเมล็ดประมาณ 1 ซม.
การปลูก มะรุมเป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศแถบเอเชีย เช่น อินเดีย ศรีลังกา เป็นต้น และยังมีในเขตเอเชียไมเนอร์และแอฟริกา เป็นไม้ปลูกง่าย เจริญได้ดีในดินทุกชนิด ต้องการน้ำและความชื้นในปริมาณปานกลาง ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและการปักชำกิ่ง งอกเร็ว ใช้เวลา 2สัปดาห์ต้นกล้าสูงประมาณ 10-20 เซนติเมตร
ประโยชน์ทางยา
ใบ ใช้ถอนพิษไข้ แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้อักเสบ แก้แผล ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต
คุณค่าทางอาหาร
ใบสดใช้กินเป็นอาหาร ใบแห้งที่ทำเป็นผงเก็บไว้ได้นานโดยยังมีคุณค่าทางอาหารสูง ใบมะรุมมีวิตามิน เอ สูงกว่าแครอท มีแคลเซียมสูงกว่านม มีเหล็กสูงกว่าผักขม มีวิตามี ซี สูงกว่าส้มและมีโปแตสเซียมสูงกว่ากล้วย
ประโยชน์อื่น ๆ
เมล็ด เมล็ดคั้นได้น้ำมันคุณภาพสูงใช้เป็นอาหารและใช้ถนอมผิว กากที่เหลือใช้แทนสารส้มในการทำให้น้ำให้ใสและสะอาด ใบและกิ่ง เป็นอาหารสัตว์ ทั้งต้น เป็นพืชบำรุงดิน ใช้ฟื้นฟูสภาพดิน ใช้เป็นพืชบังลม รั้วไม้เป็น ("รั้วกินได้")
เอกสารอ้างอิง
Fahey,Jed W. Sc.D. Moringa oleifera: A Review of the Medical Evidence for Its Nutritional, Therapeutic, and Prophylactic Properties. Part 1.
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับใบมะรุม พืชมหัศจรรย์ยืนยันโดยนักวิชาการต่างประเทศ
Moringa and diabetes
English Title: Hypoglycemic effect of Moringa oleifera (drumstick) leaf powder on human diabetic subjects and albino rats.
Personal Authors: John, S., Chellappa, A. R.
Author Affiliation: Department of Home Science, Women's Christian College, Chennai - 600 006, India.
Document Title: Indian Journal of Nutrition and Dietetics, 2005 (Vol. 42) (No. 1) 22-29
Abstract:
In human subjects the incorporation of Moringa oleifera leaf powder at eight g/day for a period of 14 days has shown marked reduction in the mean fasting and post-prandial plasma glucose levels. Based on these results, Moringa oleifera leaf powder can be strongly recommended in the daily diet of NIDDM subjects for effective management of diabetes. The fact that there was a rise in the mean plasma glucose levels after withdrawing the Moringa oleifera from the diet has proved that continuous administration of Moringa oleifera powder is mandatory for effective management of diabetes. In experimental rats also, the incorporation of Moringa oleifera leaf powder at 50 mg/day for a period of 21 days has shown marked reduction in fasting and post prandial plasma glucose levels in alloxan induced diabetic rats thereby confirming the hypoglycaemic effect. An extension in the administration period from 14 to 21 days resulted in significant reduction in mean fasting and post-prandial levels thereby indicating that continuous administration would prove to be beneficial in the control of plasma glucose levels. From the histopathological studies, it was observed that there was a mild restoration in the degenerative changes of the islet cells following administration of Moringa oleifera. As the amelioration observed in the cells is mild, further research is warranted to confirm the findings. An overall analysis of the results of the study clearly indicates that Moringa oleifera leaf powder would prove to be a useful, simple, effective, easily available and economically affordable supplement for the effective management of non insulin dependent diabetes mellitus.
Publisher: Avinashilingam Institute for Home Science and Higher Education for Women, Deemed University