หมอยาไทย ใช้รสฝาดหอมของเมล็ดลูกซัดแก้ท้องร่วง ขับลมในลำไส้ แก้ท้องอืดเฟ้อ และบดเป็นผงผสมน้ำผึ้งฟอกฝี แผล แก้อักเสบบวม แก้ไอเรื้อรัง หมออายุรเวทอินเดีย ยังใช้รักษาเบาหวาน ไขข้ออักเสบ และขับน้ำนม
หมวดหมู่ : สินค้าอื่นๆ , 
Share
ที่มา:https://www.matichonweekly.com/lifestyle/article_20599
มติชนสุดสัปดาห์
“ลูกซัด” สมุนไพรหาได้ง่าย ลดน้ำตาลในเลือด-เบาหวาน
แต่ก่อนโรคติดเชื้อเป็นสาเหตุสำคัญของความเจ็บป่วย เดี๋ยวนี้ไม่ต้องติดเชื้อก็เจ็บป่วยได้ และเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการตายด้วย เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมอง หรือมิฉะนั้นก็เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยเรื้อรังอันดับต้นๆ เช่น โรคเบาหวาน ในช่วง 1-2 ปีมานี้พบว่ามีผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานทั่วโลกถึง 246 ล้านคน ในจำนวนนี้ 4 ใน 5 เป็นคนเอเชีย สำหรับประเทศไทยขณะนี้มีคนเป็นเบาหวานถึงร้อยละ 6 ของประชากร นั่นคือราวกว่า 3 ล้านคน
เบาหวานเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินปกติ สมุนไพรที่ใช้ลดน้ำตาลในเลือดมีอยู่มากมาย แต่ที่ได้ผลดีและปลอดภัยหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับข้อมูลจากการวิจัยทางสรรพคุณและพิษวิทยา รวมทั้งวิธีการใช้ที่ถูกต้อง แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับระบบทางชีววิทยา (Biosystem) ของแต่ละคนว่าจะตอบรับกับสมุนไพรชนิดไหน ดังที่หมอแผนโบราณกล่าวว่าลางเนื้อชอบลางยานั่นแหละ
และลูกซัดก็เป็นสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่ใช้รักษาโรคเบาหวานได้ผลดีไม่มีพิษภัย ลูกซัดเป็นพืชล้มลุกตระกูลถั่วที่ฝักข้างในมีเมล็ดเหมือนก้อนกรวด ซึ่งใช้ประโยชน์ได้มากมาย
โดยทั่วไปหมอยาไทย ใช้รสฝาดหอมของเมล็ดลูกซัดแก้ท้องร่วง ขับลมในลำไส้ แก้ท้องอืดเฟ้อ และบดเป็นผงผสมน้ำผึ้งฟอกฝี แผล แก้อักเสบบวม แก้ไอเรื้อรัง หมออายุรเวทอินเดีย ยังใช้รักษาเบาหวาน ไขข้ออักเสบ และขับน้ำนม
ในทางโภชนาการผงเมล็ดลูกซัดใช้เป็นเครื่องเทศปรุงอาหารกลิ่นหอมสุขุม ส่วนประโยชน์ใช้สอยในสมัยโบราณก็คือการใช้น้ำต้มเมล็ดลูกซัดกับเปลือกชะลูดหอมเพื่อต้มผ้าให้มีกลิ่นหอมและแข็งจับกลีบเป็นเงางาม โดยสารเมือก (Guar Gum) ในเมล็ดลูกซัดนั่นเองที่ช่วยให้ผ้าแข็งตัวเป็นมันเงา แต่ปัจจุบันมีการนำสารเมือกของลูกซัดในการอาบกระดาษมันและผสมทำยาเม็ดเพื่อให้การแตกตัวของยาดีขึ้น
ที่สำคัญคือปัจจุบันมีผลการศึกษาวิจัยทางคลินิกว่าเมล็ดลูกซัดสามารถลดน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานทั้งชนิดที่พึ่งอินซูลิน (Insulin dependent diabetics) และชนิดที่ไม่พึ่งอินซูลิน (Non-insulin dependent diabetics) รวมทั้งในคนปกติด้วย
สารสำคัญในเมล็ดลูกซัดที่มีสรรพคุณลดน้ำตาลคือ ไตรโกเนลไลน์ (Trigonelline) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Trigonella foenum-graecum L. สำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดต้องพึ่งอินซูลินมีวิธีใช้ลูกซัดให้ได้ผลดังนี้
ผงเมล็ดลูกซัดขนาดมื้อละ 50 กรัม ผสมอาหารรับประทานวันละ 2 มื้อ กลางวันและเย็นเป็นเวลา 10 วัน จะพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดและในปัสสาวะลดลง ยิ่งไปกว่านั้นสารสำคัญในเมล็ดลูกซัดยังเพิ่มหน่วยรับอินซูลิน (Insulin Receptor) บนเม็ดเลือดแดงทำให้เพิ่มการใช้น้ำตาลกลูโคสและเพิ่มความต้านทานต่อกลูโคสด้วย กล่าวคือ หากเผลอกินของหวานเกินไปบ้างก็จะไม่ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูงมาก
สำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลิน ใช้ผงเมล็ดลูกซัดขนาดมื้อละ 15 กรัม ผสมอาหารรับประทานวันละ 2 มื้อ กลางวันและเย็น นาน 10-15 วันจะพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอย่างน่าพอใจ
ยิ่งกว่านั้นยังมีการทดลองใช้ผงเมล็ดลูกซัดร่วมกับยาแผนปัจจุบันบางตัวเช่น ซัลโฟนีลลูเรีย (Sulfonylureds) รักษาโรคเบาหวาน นอกจากช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอย่างปลอดภัยแล้วยังช่วยลดผลข้างเคียงจากยาแผนปัจจุบัน เช่น ปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน ดื่มน้ำมากผิดปกติ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย เป็นต้น โดยมีผลดีถึงร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่ใช้ลูกซัด
เมล็ดลูกซัดเป็นสมุนไพรที่หาได้ง่ายตามร้านขายยาสมุนไพรทั่วไป หรือจะนำเมล็ดไปปลูกใช้เองที่บ้านโดยจะใช้ส่วนใบทำยาด้วยก็ได้แต่ต้องใช้ปริมาณมากกว่าเมล็ด 1 เท่าตัว จะรับประทานเป็นยาหรือจะผสมอาหารรับประทานเป็นประจำก็ได้ แต่อย่าใช้ปริมาณยาต่อวันเกินกว่าปริมาณที่กำหนดเพราะอาจเกิดผลข้างเคียงคือ ทำให้รู้สึกหิวบ่อย หรือเวียนศีรษะเล็กน้อยเพราะขาดน้ำตาล ในกรณีที่รับประทานโดยไม่ผสมอาหาร
สำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ใช้สมุนไพรตัวอื่นไม่ได้ผล หรือต้องการให้ยาแผนปัจจุบันได้รับผลดียิ่งขึ้น ลูกซัดเป็นยาทางเลือกที่ดีและปลอดภัยตัวหนึ่ง แม้คนปกติที่ไม่เป็นเบาหวานก็สามารถรับประทานผงเมล็ดลูกซัดเป็นเครื่องเทศชูรสอาหารวันละมื้อก็ได้ เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยเบาหวานลงตามหลักป้องกันไว้ดีกว่าแก้ แย่แล้วจะแก้ลำบากนะจะบอกให้